vip escort mersin escort atakoy escort ">

สาระน่ารู้

สะเก็ดเงิน

สะเก็ดเงิน

ผิวหนัง
สะเก็ดเงินเป็นการอักเสบของผิวหนังชนิดหนึ่ง ไม่ใช่โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ และไม่สามารถติดต่อได้ พบได้ประมาณ 2% ของประชากรทั่วไป พบได้ทุกเพศ ทุกวัย 
สาเหตุยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เชื่อว่ามีส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรม ทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ผิวหนังซึ่งมีการแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ โดยปกติเซลล์ชั้นบนของผิวหนังเจริญเติบโตแทนเซลล์ผิวเดิมที่ตายและหลุดออกในเวลา 4 สัปดาห์ แต่ในกรณีสะเก็ดเงินพบว่าเซลล์ชั้นบนของผิวหนังเจริญเติบโตกว่าปกติ ใช้เวลาเพียง 3-4 วัน ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นหนาตัวขึ้น และมีสะเก็ด นอกจากนี้ยังพบว่ามีปัจจัยอื่นที่ทำให้โรคกำเริบ เช่น การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด เจ็บคอ การเกา การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การพักผ่อนน้อย และความเครียด
 
อาการจะพบลักษณะผื่นแดงเป็นปื้น มีสะเก็ดขาวๆปกคลุม เมื่อดึงให้สะเก็ดหลุดจะเห็นเลือดเป็นจุดๆใต้ผิวหนัง สามารถพบผื่นสะเก็ดเงินได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น ศีรษะ เข่า ศอก หลัง ก้นกบ หน้าแข้ง บางรายอาจมีความผิดปกติที่เล็บ โดยเล็บจะมีรอยบุ๋ม มีจุดสีน้ำตาลใต้เล็บ เล็บอาจเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาล บางครั้งอาจมีเล็บล่อน และหนาขึ้น หรือมีเลือดออกเป็นตามแนวยาวของเล็บ บางรายอาจพบอาการข้ออักเสบร่วมด้วย โดยเฉพาะข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า หากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ข้อถูกทำลายผิดรูปได้ 
 
การรักษาปัจจุบันยังไม่มีการรักษาใดที่ทำให้โรคหายขาดแต่สามารถทำให้โรคสงบหรือปรากฎให้เห็นน้อยที่สุดได้ บางรายมีอาการสงบได้หลายปี การรักษาที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางได้แก่
1. การใช้ยาทา เหมาะสำหรับผื่นที่เป็นไม่มาก มียาหลายชนิดที่สามารถเลือกใช้ได้
2. การใช้ยารับประทาน เหมาะกับผื่นที่เป็นบริเวณกว้าง หรือมีความรุนแรงของโรคมาก หรือมีอาการทางข้อร่วมด้วย ยารับประทานมีหลายชนิด ในบางกรณีอาจต้องให้ร่วมกัน 
3. การฉายแสงอุลตราไวโอเลต เหมาะกับผู้ที่มีผื่นเป็นบริเวณกว้าง และต้องการให้โรคสงบเร็ว รวมทั้งผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานยา หรือไม่สามารถรับประทานยาได้ การรักษาชนิดนี้มีไม่กี่แห่งในประเทศไทย เพื่อให้ได้ผลดี ควรทำการรักษาไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในรายที่ไม่สะดวกกับการฉายแสง อาจใช้วิธีตากแสงแดดเองที่บ้าน แต่ผลการรักษาจะไม่ดีเท่าการฉายแสงอุลตราไวโอเลตเนื่องจากในแสงแดดจะมีคลื่นแสงช่วงความยาวคลื่นที่ไม่มีประโยชน์ปนมาด้วย ซึ่งแตกต่างกับการฉายแสงอุลตราไวโอเลตบริสุทธิ์ นอกจากการรักษาในแต่ละวิธีที่กล่าวมาแล้วนั้น บางรายอาจต้องใช้การรักษาทั้ง 3 วิธีร่วมกันจึงจะได้ผลดี
 
ข้อควรรู้
-โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง มีช่วงกำเริบ และสงบ เป็นโรคที่ไม่ติดต่อ และไม่กลายเป็นมะเร็ง
-การรักษามีหลายวิธี เพื่อให้ได้ผลที่ดี ควรใช้หลายวิธีร่วมกัน
-การดูแลปฏิบัติตนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยจะต้องมีความเข้าใจในตัวโรค หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงความเครียด รู้จักการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข พักผ่อนและออกกำลังกายสม่ำเสมอ