
เลเซอร์เพื่อความงาม
ความงามเลเซอร์แตกต่างจากแสงที่เรามองเห็นคือเลเซอร์ มีช่วงความยาวคลื่นเดียว และเดินทางเป็นเส้นตรง ดังนั้นพลังงานจึงสูงมาก ไม่เหมือนแสงจากหลอดไฟที่จะกระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบ เลเซอร์มีใช้ในทางการแพทย์มานานหลายสิบปีแล้ว แต่ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาเลเซอร์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
ปัญหาความงามที่สามารถใช้เลเซอร์รักษาได้ผลดีมีดังนี้
1. ไฝ ขี้แมงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ หูด ตุ่มและก้อนบางชนิด สามารถทำได้โดยเลเซอร์ที่มีความสามารถในการตัดและเผา ขั้นตอนการรักษาจะยุ่งยากหรือไม่ขึ้นอยู่กับชนิดของปัญหา เช่น การรักษาติ่งเนื้อเล็กๆ สามารถทำได้โดยใช้ยาชาชนิดทาและใช้เวลารักษาเพียงไม่กี่นาที แผลหายภายใน 3-5 วัน หากเป็นไฝและขี้แมงวัน แผลจะหายใน 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดและความลึก
2. สีผิวเข้ม เช่นปานสีน้ำตาล ปานดำ กระตื้น กระลึก กระแดด รอยสักและรอยดำบางชนิด สามารถลดความเข้มข้นของสีลงด้วยเลเซอร์กลุ่มคิวสวิทช์ (Q-switched) ที่มีความสามารถในการจับเม็ดสีส่วนเกิน ในบางกรณีเช่นกระตื้นและกระแดด ใช้การรักษาเพียง 1-2 ครั้งรอยดำจะจางลง ในขณะที่กระลึก ปานชนิดลึก และรอยสักต้องทำการรักษาซ้ำหลายครั้งจนกว่าสีจะจางลงถึงระดับที่ต้องการ
3. เส้นเลือดฝอยที่ใบหน้าหรือขา รวมทั้งรอยแดง ปานแดง และแผลเป็นชนิดสีแดง สามารถทำให้ดีขึ้นได้ด้วยเลเซอร์ที่มีความจำเพาะเจาะจงกับเม็ดเลือดแดง เช่น เลเซอร์เพาซ์ดาย (Pulsed dye Laser) ซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 585-595 นาโนเมตร
4. กำจัดขน เป็นเลเซอร์ที่มีความจำเพาะต่อเม็ดสีที่อยู่ที่บริเวณรากขน หลังรับการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง เส้นขนจะเล็กลง จำนวนน้อยลง ขึ้นช้าลง จนอาจหายไปหมดได้ แต่อย่างไรก็ตามเลเซอร์กำจัดขนอาจจะไม่ได้ทำให้ขนหายไปอย่างถาวร
5. แผลเป็นชนิดหลุม และริ้วรอย สามารถใช้เลเซอร์ชนิดที่ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวหนังที่เพียงพอที่จะกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ที่นิยมกันในปัจจุบันคือเลเซอร์กลุ่มแฟรกชันแนลเลเซอร์ (Fractional Laser) เป็นเลเซอร์จะถูกยิงออกมาในลักษณะเป็นจุดๆ โดยจะเว้นผิวปกติไว้บางส่วน ทำให้แผลหายเร็ว เลเซอร์กลุ่มนี้กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี ผู้ป่วยใช้เวลาพักฟื้น 2-5 วันแล้วแต่ชนิดของเลเซอร์ นอกจากใช้รักษาแผลเป็นแล้ว เลเซอร์กลุ่มนี้ยังสามารถใช้กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนในผิวชั้นลึก เพื่อชะลอปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีการพัฒนาเคื่องมือแพทย์เพื่อแก้ปัญหาความงามอื่นๆอีกมาก โดยเฉพาะปัญหายอดฮิตที่พบได้บ่อยคือ เรื่องผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น จากเมื่อก่อนใบหน้าและลำคอเรียวสวย พออายุมากขึ้นเริ่มมีร่องแก้ม คางเป็นสองชั้น หนังตาเริ่มตก เครื่องมือที่ใช้ได้ดีสำหรับปัญหากลุ่มนี้ได้แก่ เครื่องอาร์เอฟ หรือที่มาจากชื่อเต็มว่า Radiofrequency และเครื่องโฟกัสอัลตร้าซาวน์ (Focused Ultrasound) วิธีดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด เพราะไม่มีแผล สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังรักษา
โทษหรือข้อจำกัดของการใช้เลเซอร์เพื่อความงาม
แม้การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาในเรื่องความงามจะให้ผลรักษาที่ค่อนข้างดี แต่หลักการทำงานของเลเซอร์คือทำให้เกิดความร้อนที่ผิวหนัง ดังนั้นอาจมีผลกระทบที่เลี่ยงไม่ได้เช่น ทำให้เกิดการแดง หรือ ดำ หรือรอยด่างได้ โดยส่วนมากจะเป็นชั่วคราว และจะค่อยๆหายไปเอง
คำแนะนำก่อนการตัดสินใจใช้เลเซอร์เพื่อความงาม
สิ่งสำคัญอันดับแรก สำหรับการตัดสินใจเลือกรักษาด้วยเลเซอร์คือควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจำเป็นหรือไม่ บางภาวะอาจไม่จำเป็นต้องรักษา บางกรณีอาจรักษาได้ด้วยการใช้ยาโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำเลเซอร์ หากต้องทำการรักษาด้วยเลเซอร์ควรรับการรักษากับแพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ เพราะรู้จักโรคและสภาพปัญหา เช่น กระเนื้อเกิดขึ้นที่ชั้นหนังกำพร้า ถ้าแพทย์ไม่ชำนาญอาจยิงเลเซอร์ลึกเกินไปจนทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ ก่อนทำเลเซอร์บางชนิดไม่ควรตากแดดจัด หลังทำเลเซอร์ควรทายาหลังเลเซอร์ ครีมบำรุงผิวและกันแดดตามระยะเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งการปฏิบัติตนหลังทำเลเซอร์ เช่น การโดนน้ำ การหลีกเลี่ยงแสงแดด ซึ่งขึ้นกับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้รักษา